เตรียมตัวอย่างไร ถ้าอยากเลี้ยงเจ้า แมว เปอร์เซีย ?

เตรียมตัวอย่างไร ถ้าอยากเลี้ยงเจ้า แมว เปอร์เซีย ?

แมว เปอร์เซีย เป็นแมวที่มีลักษณะพิเศษ คือขนปกคลุมยาวทั้งตัว หางเป็นพู่สวยงามจนได้รับการขนานนามให้เป็นราชินีแมวที่ส่งตรงมาจากแดนตะวันออกกลาง แน่นอนว่าเจ้าเหมียวได้รับนิยม มีผู้คนเลี้ยงกันแพร่หลายไปทั่วโลกกันเลยทีเดียว! หน้าตาของพวกเขามีความน่ารัก ลักษณะศีรษะที่กลมมน บวกกับดวงตากลมโต จะมองกี่ครั้งก็ทำให้ทาสแมวใจละลาย ยอมควักตังค์จ่ายค่าของเล่น ค่าขนม จนกลายเป็นลูกเลี้ยงตัวโปรดประจำบ้าน

สำหรับมือใหม่ที่อยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ ซึ่งไม่ใช่แมวไทย สิ่งที่ควรรู้คือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา เนื่องจากลักษณะขนที่ยาว ทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากอากาศร้อนชื้นของเมืองไทยได้ง่ายเหมือนกัน บวกกับอุปนิสัยที่เจ้าของต้องรู้ไว้ จะได้มีความสุขกันทั้งคนเลี้ยงและเจ้าแมว เปอร์เซีย กันได้แบบไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง

รู้ไว้คร่าวๆ กับลักษณะพื้นฐานด้านสายพันธุ์ของแมว เปอร์เซีย

พื้นฐานคร่าวๆ นี้เราไม่ได้จะบอกว่าต้องรู้เจาะลึกไปขั้นระดับโครงสร้าง แขนขา ท่าทางการเดินอะไรพวกนั้นมากนัก แต่พื้นฐานที่คนเลี้ยงอย่างเราๆ ต้องรู้ก็คือ ลักษณะของสายพันธุ์แมวเปอร์เซีย แม้จะมีโครงสร้าง หน้าตา จมูก และเรียวขนที่ยาวไปทั่วทั้งตัวเป็นจุดเด่นหลัก ทว่าแมวเปอร์เซียร์ยังมีการแบ่งย่อยสายพันธุ์ออกไปอีกถึง 7 ชนิด แต่ละแบบก็จะมีสีสันที่ต่างกันออกไป
ส่วนสิ่งที่ดูจะเหมือนกันทั้งหมดเลย เห็นจะเป็นลักษณะของจมูกแบนๆ เบ้าตากลมดำน่ารักน่าเอ็นดู มีช่วงขาสั้น หูเล็กๆ กลมมน และขนที่ยาวฟู มองแล้วก็รู้เลยว่านี่คือเจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้ สายพันธุ์ย่อยที่ถูกแบ่งๆ ออกแตกต่างกันนั้น บางชนิดเกิดขึ้นจากการผสมข้ามสายพันธุ์ เช่น Himalayan ที่เป็นการผสมระหว่างแมวเปอร์เซียกับพี่วิเชียรมาสของไทย ได้ออกมาเป็นแมวตาสีฟ้า มีแต้มสีเหมือนแมววิเชียรมาสที่ใบหน้า เป็นต้น

การดูแลเบื้องต้นสำหรับเจ้าเหมียวขนยาว

การดูแลเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ สิ่งที่ต้องเตรียมเลยก็คือหวีแปรงขนที่จะต้องหมั่นแปรงให้พี่แมวกันทุกวัน เพราะจะได้ทำให้ขนดูยาวสวย เรียงตัวเป็นเส้นไม่เกรอะกรังพันกันจนหวียาก สำหรับคนที่อยากเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ แต่มีพื้นที่จำกัด ก็อาจจะต้องระวังเรื่องกลิ่นสาบตามธรรมชาติ อย่าลืมเตรียมสเปรย์กำจัดกลิ่นเอาไว้ หมั่นฉีดดับกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค โดยเลือกซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อน้องแมวด้วย
สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยก็ต้องพิจารณา เนื่องจากเป็นแมวขนยาว ดังนั้นอากาศจะต้องไม่ร้อน ไม่อับชื้น มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกตลอดเวลา อย่าให้แมวอยู่ในกรงที่สกปรก เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา มิเช่นนั้นอาจจะทำให้แมวของคุณเป็นโรคผิวหนังขึ้นมาแบบไม่รู้ล่วงหน้า เพราะมีขนปกคลุมปิดบังเอาไว้อยู่ ทางที่ดีหมั่นตรวจเช็คสุขภาพผิวหนังด้วยเป็นครั้งคราว ด้วยการเลิกขนดูลักษณะผิวหนังว่ายังขาวสะอาด เรียบเนียน ไม่มีตุ่มแดง หรือพื้นผิวขรุขระเกิดขึ้น ที่เหลือก็สังเกตพฤติกรรม หากน้องแมวคันบ่อยๆ เกาจนเลือดซิบ ก็ลองพาไปหาสัตว์แพทย์ดูอาการด้วยจะดีกว่า

การดูแลเรื่องอาหารสำหรับแมว เปอร์เซีย

อาการของแมว เปอร์เซีย จะต้องเป็นเมนูที่ช่วยบำรุงขนไปในตัว เบื้องต้นก็คิดซะว่าไม่ว่าจะเป็นแมวสายพันธุ์ไหน ก็ต้องได้รับการเลี้ยงดูจากสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อบำรุงทั้งร่างกายภายในและขนสวยๆ ภายนอก
คนเมืองเลี้ยงแมวย่อมไม่สะดวกที่จะมานั่งคลุกข้าว ปรุงเมนูอาหารด้วยตัวเองอยู่แล้ว เจ้าเหมียวก็ต้องใช้ชีวิตตามวิถีชาวเมืองกันสักหน่อย หากเน้นให้เจ้าเหมียวกินเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารเปียก ก็ต้องเตรียมน้ำสะอาดเอาไว้ข้างๆ ด้วย เพราะอาหารเม็ดจะมีปริมาณโซเดียมอยู่แล้ว
การให้เจ้าเหมียวเจอแหล่งน้ำได้ง่าย พวกเขาจะได้กินน้ำหลังอาหาร ช่วยลดความเข้มข้นของโซเดียมจากอาหารเม็ดให้น้อยลง อย่างไรก็ตามเปลี่ยนเมนูจากอาหารเม็ดเป็นอาหารเปียกบ้างเพื่อไม่ให้พวกเขาเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดหรืออาหารเปียก ให้เลือกยี่ห้อที่มีปริมาณเกลือต่ำ สีสันไม่ต้องฉูดฉาดดูน่ากิน เพราะเป็นการแต่งกลิ่น แต่งสีให้ดูสวยงาม ไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายใดๆ ทั้งนั้น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกหลายอย่างที่คนเลี้ยงแมวต้องค่อยๆ ศึกษาหาความรู้กันให้มากเข้าไว้ เพราะการเลี้ยงแมว เปอร์เซีย แม้จะมีลักษณะพื้นฐานที่คล้ายๆ กัน แต่นิสัยใจคอก็แตกต่างกันออกไปบ้าง เหมือนมนุษย์แต่ละคนที่มีบุคลิกไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ารู้จักเขาได้ดี ก็จะได้ดูแลกันได้ง่ายขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ