รีวิวทรายแมวเต้าหู้ ใช้ดีไหม เลือกยี่ห้อไหนดี ?
เหล่าทาสแมวคงรู้จักทรายแมวเต้าหู้กันมาพอสมควร เพราะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้ให้กับเจ้าแมวเหมียวของพวกคุณ ซึ่งเป็นการผลิตจากวัสดุธรรมชาติ โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว อาจมีการปรับแต่งกลิ่นและสีบ้างเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทการใช้งาน และด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจ ทำให้หลาย ๆ คนเลือกใช้ และกลายเป็นแฟนตัวยงทรายแมวชนิดนี้ไปโดยปริยาย ดังนั้นใครที่อยากลองเปลี่ยนทรายแมวแบบเดิม ๆ ที่เป็นเม็ดเล็ก ไม่เก็บกลิ่น แถมบางยี่ห้อยังมีฝุ่นเยอะอีกด้วย เราลองมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ชนิดนี้กันให้มากขึ้น พร้อมรีวิวยี่ห้อที่น่าสนใจ ยี่ห้อไหนดีที่จะเหมาะกับเจ้าเหมียวของคุณบ้าง?
ทรายแมวเต้าหู้คืออะไร ทำไมฮิต!?
ลักษณะของทรายแมวเต้าหู้ส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นยาวขนาดเล็กทรงกระบอก ซึ่งส่วนผสมหลักที่นำมาใช้นั้นก็มาจากเต้าหู้หรือถั่วเหลืองที่เรารับประทานกันเป็นอาหารนั่นเอง ด้วยลักษณะพิเศษ ทำให้ทรายแมวชนิดนี้มีความแตกต่างอย่างมากกับทรายแมวทั่ว ๆ ไปที่เป็นเกล็ดขนาดเล็กเหมือนทราย แถมยังมีคุณสมบัติที่ช่วยย่อยสลายได้ เนื่องจากเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ก่อนหน้านี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น เพราะเป็นประเทศที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ได้รับความนิยมในไทยเพิ่มมากขึ้น ทรายจะมีเม็ดใหญ่ ไม่เป็นผง ไม่มีสารเคมีอันตราย จึงปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แถมยังสามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยเพื่อบำรุงดิน เพิ่มธาตุอาหารให้กับต้นไม้ได้อีกทางหนึ่งด้วย
การใช้งานทรายแมวเต้าหู้ ดีไหมเมื่อเทียบกับทรายแมวอื่น?
ทรายแมวเต้าหู้ หรือ Tofu Cat Litter ที่เรียกกันในภาษาอังกฤษ ในการใช้งาน หากถามว่าดีไหม เมื่อเทียบกับทรายแมวแบบอื่น ๆ นั้น ก็ต้องมาทำความเข้าใจคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ชนิดนี้กันให้ดีก่อน เพราะปัจจุบันให้เลือกหลายแบบเสียเหลือเกิน แถมยังมีราคาที่แตกต่างกันออกไป เทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น ทรายแมวเต้าหู้ก็ถูกพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่ดีตามมา โดยหลัก ๆ ตัวทรายจะทำงานได้ดี เมื่อน้องเหมียวฉี่หรืออุจจาระ ทรายจะจับตัวกันเป็นก้อนได้ง่าย ตักทิ้งสะดวก ไม่ละลายจนสกปรก ด้วยการจับตัวปกปิดสิ่งปฏิกูลได้อย่างแนบสนิท จึงช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่าทรายเม็ดเล็ก ๆ ตัวทรายจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเต้าหู้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้ช่วยกลบกลิ่นได้ดี ซึ่งในปัจจุบันยังมีการผลิตออกมาเป็นกลิ่นหอมอื่นอีก เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศ เหมาะสำหรับการเลี้ยงแมวระบบปิด เช่น กลิ่นชาเขียว, กลิ่นกาแฟ, กลิ่นพีช และกลิ่นเลม่อน เป็นต้น
ในขณะที่ทรายแมวแบบอื่น แม้จะเคลมว่าเป็นทรายที่ลดฝุ่นและกำจัดกลิ่นได้ดีมากก็ตาม แต่ถ้าได้ลองเทออกมา ก็จะมีละอองฝุ่นเล็ก ๆ ที่กระจายขึ้นไม่มากก็น้อย แถมบางยี่ห้อเมื่อน้องเหมียวเข้าไปใช้บริการแล้ว ก็มักจะละลายผสมกับสิ่งปฏิกูล บางตัวก็เหยียบเอาส่วนที่เปียกนั้นติดกับเท้ามาด้วย หรือบางทีก็ติดมาตามง่ามเท้า ทำให้พื้นบ้านสกปรก เต็มไปด้วยทรายเม็ดเล็ก ๆ ที่ต้องคอยเก็บกวาด เป็นภาระมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากเทียบคุณสมบัติการใช้งานแล้ว ดูเหมือนทรายแมวเต้าหู้จะเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนเลี้ยงแมว เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องความสกปรก เนื่องจากมีชิ้นขนาดใหญ่กว่าทรายทั่วไป จะไม่ติดมากับเท้าน้องเหมียว แห้งสนิทดีหลังใช้ และส่วนที่จับกับสิ่งปฏิกูลยังแยกจากทรายที่ยังสะอาดอยู่ เก็บออกมากำจัดได้ง่าย ทำให้ใช้งานได้อย่างประหยัด ไม่ต้องตักทรายส่วนเกินออกมาด้วย
รีวิววิธีเลือกทรายแมวเต้าหู้ จะใช้ยี่ห้อไหน พิจารณาจากอะไรดี?
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าทรายแมวเต้าหู้มีให้เลือกหลากหลายมาก ๆ ในท้องตลาด ทั้งราคาถูกและแพงแตกต่างกันไป ดังนั้นการจะเลือกซื้อยี่ห้อที่คุ้มค่ากับราคา อาจจะต้องมาพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้กันหน่อย จะได้เลือกซื้อได้อย่างถูกต้องกับการใช้งาน และได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
1. เลือกชนิดที่เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด
ความเป็นธรรมชาติในที่นี้ หมายถึง ทรายควรเป็นชนิดที่ผลิตจากเต้าหู้ถั่วเหลือง 100% ไม่มีส่วนผสมจากวัสดุอื่น ๆ เข้ามาด้วย เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้งานดีที่สุด ซึ่งจะปลอดภัยต่อน้องแมวที่ต้องเข้าไปสัมผัสโดยตรง แถมยังปลอดภัยต่อคนเลี้ยงด้วย ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องสารเคมีเจือปน ก่อนจะซื้อควรหาข้อมูลให้ดี และอ่านฉลากที่ตัวผลิตภัณฑ์ว่ามาจากเต้าหู้อัดจากธรรมชาติหรือเปล่า
2. เลือกคุณสมบัติที่ช่วยดับกลิ่นได้ดี
บางคนที่เลี้ยงแมวระบบปิด มีห้องน้ำแมวอยู่ภายในบ้าน จะต้องเลือกทรายแมวที่มีคุณสมบัติเก็บกลิ่นได้ดีเป็นพิเศษ เพื่อลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งทรายเต้าหู้ที่ดีจะต้องจับตัวเป็นก้อนได้อย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับของเหลวหรือแม้กระทั่งสิ่งปฏิกูลที่มีความเปียก จะต้องจับตัวได้ทันที ให้สังเกตดูว่าทรายแมวที่จับตัวเป็นก้อนได้ดีจะช่วยลดกลิ่นแอมโมเนียจากปัสสาวะและอุจจาระ ทำให้น้องแมวรู้สึกสะอาดทุกครั้งที่ใช้ห้องน้ำ แถมยังง่ายต่อการจัดเก็บนำไปทิ้งได้แบบไม่มีปัญหาอีกด้วย
3. เลือกกลิ่นของทรายเต้าหู้ที่เหมาะสมกับเจ้าเหมียว
เนื่องจากทรายแมวเต้าหู้มีกลิ่นให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบธรรมชาติที่ไม่ได้ผสมกลิ่น และกลิ่นหอมอื่น ๆ ที่เจ้าของแมวอาจสนใจ เอาจริง ๆ แล้วการเลือก “กลิ่น” ควรเลือกให้เหมาะกับความคุ้นเคยของเจ้าเหมียวให้มากที่สุด โดยเฉพาะแมวที่ใช้ทรายแบบเป็นเกล็ดหรือผงมาก่อน บางคนอาจใช้กลิ่นหอมแบบเดิม ๆ มาตลอดจนแมวคุ้นชิน เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนมาใช้ทรายแบบเนื้อเต้าหู้ ควรเลือกเป็นกลิ่นธรรมชาติ หรือกลิ่นที่น้องเหมียวเคยใช้มาก่อนหน้านี้ จะได้ทำให้เกิดความคุ้นเคย เจ้าเหมียวรู้สึกกล้าเข้าไปขับถ่ายได้แบบไม่เกิดปัญหาตามมา
4. เน้นการย่อยสลายได้ดี เป็นมิตรกับธรรมชาติ
การย่อยสลายที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเรื่องสภาพแวดล้อมเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วในมุมของคนเลี้ยงแมว การย่อยสลายที่ดี จะง่ายต่อการกำจัดทำคามสะอาด คุณสามารถที่จะเอาทรายแมวทิ้งลงชัวโครกได้ โดยไม่ทำให้ท่ออุดตัน ซึ่งในส่วนนี้ถ้าให้มั่นใจควรมีระบุที่ฉลากเอาไว้ด้วย โดยปกติมักจะเขียนว่า Soluable หรือ Solution in Water ซึ่งแน่นอนว่านี่คือคุณสมบัติที่ดีของทรายแมวเต้าหู้ ราคาจะแพงกว่าแบบธรรมดา ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องเก็บใส่ถุงขยะทิ้งให้เปลือง แค่ตักแล้วทิ้งลงชักโครก กดน้ำทิ้ง ก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่นานตัวเต้าหู้จะย่อยสลายไปกับน้ำได้เอง
วิธีใช้ทรายแมวเต้าหู้ ต้องเทแค่ไหนถึงจะพอดี?
ปริมาณของทรายที่เทไว้ในกระบะทรายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญเหมือนกันในเรื่องของการเก็บกลิ่น แม้บางครั้งจะเป็นทรายเต้าหู้ที่เก็บกลิ่นได้ดีมาก แต่ทว่ายังมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เล็ดลอดออกมา จนทำให้คิดว่าเป็นทรายแมวที่ไม่มีคุณภาพตามโฆษณา ซึ่งจริงแล้ว ๆ อาจเกิดจากการใช้งานแบบผิดวิธี สัดส่วนของทรายที่เทน้อยเกินไป จนทำให้ทรายติดกับกระบะทำความสะอาดยาก มีกลิ่นเหม็น ดังนั้นควรปรับปริมาณของทรายให้มากขึ้น จนไม่มีกลิ่น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้ในระยะยาว ด้วยการเททรายในความสูงจากก้นกระบะราว 6-8 เซนติเมตร และกระจายให้ทั่วถึงทั้งกระบะ เมื่อกำจัดบางส่วนออกไป ก็ควรหมั่นเติมให้ทรายอยู่ในระดับที่สม่ำเสมออยู่ตลอด ก็จะช่วยให้ประสิทธิภาพให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างเต็มที่มากที่สุด
จะเห็นได้ว่าทรายแมวเต้าหู้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ ใครที่อยากจะลองเปลี่ยนจากทรายแบบเดิม ๆ ที่มักเจอปัญหากลิ่นรบกวน การกำจัดที่ไม่สะดวก ไปจนถึงฝุ่นและปัญหาอื่น ๆ ลองพิจารณากันดูจากข้อมูลด้านบน แล้วเลือกยี่ห้อที่ตรงกับการใช้งานของคุณและน้องแมวให้มากที่สุด อาจจะช่วยตอบโจทย์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในบ้านได้อย่างมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้